สมัครเรียน
ขั้นตอนนี้ บริษัทแนะแนวต้องมีคุณธรรมในการให้คำแนะนำ
• รับใบ Offer เมื่อเราได้รับใบ Offer (โดยผ่านทางบริษัทแนะแนว) ก็หมายถึงว่า สถาบันที่เราสมัครไปรับเข้าเรียนแล้ว แต่มีข้อแม้ต้องไปจ่ายเงินค่าเรียนก่อน และวีซ่าต้องผ่านด้วย ซึ่งระยะเวลาในการรอใบ Offer ก็จะประมาณ 1-2 วัน หรือทางสถาบันอาจจะใช้ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันหรือมหาวิทยาลัยนั้นๆเป็นต้น
• การตรวจร่างกายเพื่อขอ visa สามารถไปตรวจเฉพาะได้ที่โรงพยาบาลทีทางสถานทูตกำหนดมาเท่านั้น มีทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ในการตรวจก็จะเหมือนกับตรวจร่างกายทั่วๆไป โดยจะตรวจปัสสวะ , ตรวจสายตา , x-ray ปอด โดยไปกรอกแบบฟอร์มที่โรงพยาบาล และแจ้งว่าเพื่อไปศึกษาต่อ สำหรับผลการตรวจทางโรงพยาบาลจะส่งตรงไปที่สถานทูตเอง สิ่งสำคัญก็คือ ท่านจะต้องนำใบเสร็จกลับมาให้กับทางบริษัท เพื่อนำมาใช้ในการยื่นขอวีซ่ากับทางสถานทูต
• การโอนเงิน ขั้นตอนนี้จะทำการโอนเงินก็ต่อเมื่อได้รับใบ Offer จากทางสถาบันที่ไปสมัครเรียน วีธีโอนก็ไปโอนที่ธนาคารต่างๆที่สะดวกในการไปโอน โดยที่โอนเงินค่าเทอมตรงไปยังสถาบันศึกษาโดยตรงเลย เงินที่โอนไปจะประกอบไปด้วย
1. ค่าสมัครเรียน (ในกรณีที่ทางบางสถาบันเก็บจริง)
2. ค่าเทอม
3. ค่าโอน
4. ค่าประกันสุขภาพ (ตามจำนวนทางสถาบันเป็นผู้แจ้งมา) และเก็บใบเสร็จในการโอนเงินไว้
• รับใบ CEO ใบ CEO นี้จะเป็นใบรับรองว่าเราจ่ายเงินค่าเทอมไปแล้ว เพื่อใช้เป็นเอกสารแนบในการขอวีซ่า หลังจากนี้ทางบริษัทแนะแนวจะแจ้งมายังน้องๆเองว่าให้เตรียมยื่นวีซ่าได้
• ทำVisa
ขั้นตอนนี้จะต้องใช้เอกสารและข้อมูลต่างๆที่ให้เตรียมไว้ 4 ด้านดังกล่าวไว้เบื้องต้นมาประกอบในการยื่นขอวีซ่านักเรียน
ดังนั้นจะมีบทสรุปในการทำวีซ่าได้ 2 คำตอบ คือ1. ขอแล้วผ่าน
2. ขอแล้วถูกปฏิเสธ หรือ Reject visa
เพราะสาเหตุอะไร แล้วบริษัทจะดำเนินการต่อไปอย่างไร และมีวิธีใดที่จะทำให้วีซ่าผ่านโดยไม่ต้องยื่นรอบสอง รอบสาม จากประสบการณ์ในการดำเนินการขอวีซ่ามาจึงทำให้ทราบว่า ถ้าเอกสารไม่ครบหรือฐานะทางการเงินไม่ดีพอก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกปฏิเสธวีซ่าได้ จะทำให้น้องๆเป็นผู้เสียผลประโยชน์และเสียเงิน เสียเวลา ดังนั้นขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญมากอีกขั้นตอนหนึ่ง ทางบริษัทยินดีให้คำแนะนำและปรึกษาฟรี
2. ขอแล้วถูกปฏิเสธ หรือ Reject visa
เพราะสาเหตุอะไร แล้วบริษัทจะดำเนินการต่อไปอย่างไร และมีวิธีใดที่จะทำให้วีซ่าผ่านโดยไม่ต้องยื่นรอบสอง รอบสาม จากประสบการณ์ในการดำเนินการขอวีซ่ามาจึงทำให้ทราบว่า ถ้าเอกสารไม่ครบหรือฐานะทางการเงินไม่ดีพอก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกปฏิเสธวีซ่าได้ จะทำให้น้องๆเป็นผู้เสียผลประโยชน์และเสียเงิน เสียเวลา ดังนั้นขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญมากอีกขั้นตอนหนึ่ง ทางบริษัทยินดีให้คำแนะนำและปรึกษาฟรี
การเตรียมตัวก่อนเดินทาง เมื่อวีซ่าผ่าน น้องๆควรจะเตรียมอะไรไปบ้างจากเมืองไทย เพราะต่างประเทศของราคาแพง จากบ้านเราสังเกตได้จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินก็ต่างกัน ฉะนั้นค่าครองชีพและข้าวของก็ราคาสูงกว่าเมืองไทยตามไปด้วย
สิ่งที่จำเป็น1. ตั๋วเครื่องบิน สามารถซื้อได้ในราคาถูกสำหรับ Student Visa พร้อมได้น้ำหนักกระเป๋าเพิ่มจากน้ำหนักของตั๋วปกติอีก 10 kg
2. Home Stay ควรจะแจ้งกับทางบริษัทแนะแนวในการจัดหาให้
3. รถรับ-ส่งจากสนามบิน-ที่พัก ควรจะแจ้งทางบริษัทแนะแนวเพื่อจัดหาให้ (หากต้องการ)
4. เสื้อผ้า , เครื่องแต่งกาย
5. Talking Dictionary และ Dictionary ธรรมดา เพราะทางสถาบันไม่ให้ใช้ Talking Dictionary
6. Adapter ปลั๊กไฟ เพื่อไปใช้กับครื่องไฟฟ้าที่เรานำไปใช้ยังประเทศนั้น ๆ
7. กรณีมีโรคประจำตัวที่ต้องทานยาประจำ
8. ปากกา ดินสอ ยางลบ เพราะต่างประเทศราคาแพง
การเดินทาง ควรไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิก่อนสัก 2 ชั่วโมง ถ้าใครไม่เคยเดินทางไกลโดยเครื่องบินมาก่อน ขอแนะนำว่าตอน Check In บอกพนักงานว่าอยากได้ที่ติดทางเดิน จะได้สะดวก เพราะใช้เวลานานหลายชั่วโมง และเตรียมเสื้อกันหนาวด้วยนะบนเครื่องอากาศเย็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น